ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รั้วลวดหนาม คืออะไร?

 

จุดเริ่มต้นของลวดหนาม

รั้วลวดหนามผลิตด้วยลวดพันกับหนาม ลวดหนามเริ่มมีใช้ในยุค ค.ศ. 1800 เมื่อเกษตรกรมีความต้องการผลิตภัณฑ์รั้วมีลักษณะแหลมและราคาถูก เริ่มมีการออกแบบใช้ลวดพันกับหนาม หรือเรียกกันว่า “ลวดหนาม” ลวดหนามแบบพื้นฐานที่มีลวดหนาม 2-4 แฉก จากการใช้งานพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงและเป็นที่นิยมมาก รั้วลวดหนามถูกนำมาใช้เพื่อให้ผู้คนและสัตว์เข้าหรือออกจากพื้นที่ อาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเลี้ยงปศุสัตว์หลายสายพันธุ์ เนื่องจากพวกสัตว์จะไม่เข้าไปใกล้รั้วอีกเพราะว่าหนามทำให้เจ็บ รั้วลวดหนามถูกใช้ไปทั่วโลกและมีสามารถใช้รวมกับผลิตภัณฑ์รั้วประเภทอื่นได้

ลวดหนามเบอร์ที่นิยมใช้

ลวดหนามมีเบอร์อะไรบ้าง เบอร์ของลวดหนาม หรือขนาดของลวดที่เอามาใช้ผลิตลวดหนาม แต่ละเบอร์มีขนาดต่างกัน เบอร์ลวดหนามที่ใช้กันแพร่หลายมาจากมาตรฐาน SWG (Standard Wire Gauge) เป็นมาตรฐานของ British Standard Wire Gauge (BS3737 : 1964) ที่ใช้ในแบบสากล รวมถึงประเทศไทยก็ใช้มาตรฐานนี้ ในปัจจุบันนิยมใช้ลวดหนามเบอร์ 13 เบอร์ 14 และ เบอร์ 15

ลักษณะของหนาม

ลวดหนามในปัจจุบัน มีรูปแบบการพันหนามอยู่ 2 แบบ คือ

1. การพันเกลียวหนามแบบธรรมดา (Conventional)

เป็นการพันเกลียวลวดหนามแบบเก่า มีโอกาสที่หนามจะหลุด หรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวดจะมีการพันเกลียวแบบหลวมๆ ไม่แน่น มีโอกาสที่ติดตั้งแล้วจะทำให้ลวดหนามหย่อนในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นตามทั่วไป (ตามรูปด้านล่าง)


2. การพันเกลียวหนามแบบไขว้สลับ (Reversed Twist)

เป็นนวัตกรรมแบบใหม่ ที่มีการพันเกลียวนามแบบไขว้สลับ ตัวหนามจะแน่นเป็นพิเศษ แข็งแรงไม่มีหลุด ที่สำคัญเส้นลวดจะมีการพันสลับที่แน่นกว่าแบบเดิม หรือแบบพันเกลียวปกติ ทำให้เพิ่มความแข็งแรงของลวดหนามที่พันเกลียวด้วยลักษณะนี้ ปัจจุบันในประเทศไทยเริ่มมีลวดหนามซิงค์อลูฯ ไวน์แมนก็มีการพันเกลียวหนามแบบไขว้สลับ ทำให้ขึงตึง ไม่หย่อน (ตามรูปด้านล่าง)

การเคลือบสารกันสนิม หรือ การชุบซิงค์ของลวดหนาม

การเคลือบสารกันสนิมของลวดหนามในปัจจุบันหลัก ๆ มีการเคลือบอยู่ดังนี้คือ

การชุบซิงค์แบบไฟฟ้า (Electro Galvanized)

คือ กระบวนการผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปในสารละลายเกลือของโลหะ (Metallic Salts) แล้วทำให้อิออนบวกวิ่งมารับประจุไฟฟ้าลบที่ชิ้นงาน ซึ่งทำหน้าที่เป็นขั้วลบ (Cathode) จึงทำให้เกิดเป็นชั้นผิวบางของโลหะมาเคลือบอยู่บนผิวด้านนอกของชิ้นงานการชุบซิงค์ จัดอยู่ในประเภทการชุบโลหะด้วยไฟฟ้า เป็นกระบวนการที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากสามารถนำโลหะ และอโลหะหลายชนิดมาทำการเคลือบผิว ในขณะเดียวกันก็สามารถเลือกโลหะที่จะนำมาเคลือบผิวได้หลากหลายชนิดด้วย ซึ่งการเคลือบในลักษณะนี้จะมีผิวเคลือบซิงค์ที่ค่อนข้างบางมาก ทำให้อายุการใช้งานของการชุบแบบนี้ อยู่ได้ไม่นานมากนัก อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-12 เดือน

การชุบซิงค์แบบจุ่มร้อน ( Hot-Dipped Galvanized)

โดยปัจจุบันกระบวนการเคลือบสารกันสนิมหรือการชุบซิงค์ได้ถูกนำมาใช้ในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้าง หรืออุตสาหกรรมชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า การชุบซิงค์มีแบบจุ่มร้อน (Hot-Dipped Galvanized) ซึ่งปกติลวดหนามที่มีจำหน่ายในเมืองไทย ส่วนมากแล้วชุบซิงค์แบบจุ่มร้อน แต่จะชุบเพียงแค่ 20- 50 กรัมเพียงเท่านั้น ซึ่งเฉลี่ยแล้วสามารถทนสนิมได้นานแค่ 1-2 ปีเท่านั้น เนื่องจากเป็นปริมาณที่น้อยเกินไป ทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนมีกระบวนการชุบซิงค์แบบจุ่มร้อนหนาพิเศษขึ้นมา

ในต่างประเทศได้เริ่มใช้ลวดหนามชุบซิงค์แบบจุ่มร้อนมานานหลายปีแล้ว การเคลือบสารป้องกันสนิมหรือชุบซิงค์แบบจุ่มร้อนหนาพิเศษนั้น จะมีการชุบซิงค์แบบจุ่มร้อนเฉลี่ย 235-250 กรัม/ตารางเมตร ในส่วนประเทศไทยนั้นเริ่มมีลวดหนามชุบซิงค์แบบจุ่มร้อนหนาพิเศษเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานแล้วเช่นกัน อย่างแบรนด์ลวดหนามเทวดาที่มีจำหน่ายอยู่ ลวดหนามที่มีการชุบซิงค์แบบจุ่มร้อนหนาพิเศษทำให้มีอายุการใช้งานมากว่าลวดหนามทั่วไปในท้องตลาด เฉลี่ยอยู่ที่ 30 – 50 ปี

การชุบซิงค์อลูมิเนียม (ZnAl)

เป็นการป้องกันสนิมที่มีส่วนผสมของซิงค์และอลูมิเนียม (ZnAl) ทั้งนี้จะมีการระบุสัดส่วนและปริมาณอลูมิเนียมที่ผสม ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุดคือ ซิงค์อลู 10% (ZnAl 10%) เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน และเพิ่มอายุการใช้งานของเส้นลวด ทำให้ลวดหนามซิงค์อลูมีอายุการใช้งานยาวนานมากถึง 80 ปี*

ที่มา vinemanfence

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ร้านกาแฟสกายวอล์คกระจกใส ไทยมีแล้วล้อมธรรมชาติ

วันที่ 27 พฤษภาคม 63 อีกหนึ่งแห่งสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ผ่อนคลายจากโควิด ร้านหลงกาแฟ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 9 ต.พุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี มีแนวความคิดสร้างสะพานกระจก หรือที่เรียกว่า สกายวอล์ค เป็นจุดเด่น ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนสะพานกระจกใสชมธรรมชาติติดภูเขา ยืน นั่ง ถ่ายรูป เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกได้ สะพานกระจกใสมาตรฐาน ปลอดภัย มีความยาว 20 เมตร สูง 5 เมตร นอกจากนี้มีร้านหลงกาแฟแล้ว ยังมี ร้านหลงครัว และร้านหลงบาร์ เพียบพร้อมด้วยเมนูอาหารที่หลากหลาย อีกด้วย ทางด้านนางสาวสุดารัตน์ รัตนวิจารณ์ (เจ้าของร้าน)เผยว่า เดิมทีสถานที่นี้เป็นที่ดินของแม่ ซึ่งตนเองมีแนวคิดที่จะมีร้านกาแฟเล็กๆสักร้านหนึ่งอยู่แล้วและเป็นจังหวะที่น้องสาวออกจากงานประจำ จึงได้มาสร้างสถานที่ตรงนี้เพื่อรองรับคนพระพุทธบาท แต่ก็คิดไม่ถึงว่าคนจะหลั่งไหลมาเยอะขนาดนี้ ซึ่งก่อนที่ร้านกาแฟจะเปิดก็มีร้านหลงบาร์ เปิดมาก่อนเป็นร้านอาหารกลางคืนมีดนตรี ต่อมาก็มีร้านหลงครัวซึ่งเปิดพร้อมกันกับร้านกาแฟ ส่วนในเรื่องของสะพานสกายวอล์คที่สร้างขึ้นมาก็เพื่อที่อยากจะให้คนที่มาดื่มกาแฟมีที่ถ่ายรูป เพราะวิวสถานที่เป็นวิวภูเขา ก็เลยอยากให้ถ่าย

นโยบายความเป็นส่วนตัว

  นโยบายความเป็นส่วนตัว บริษัท ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการเว็บไซต์ของเรา นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เรารวบรวมจากคุณเมื่อคุณใช้บริการของเรา และวิธีที่เราจะใช้ข้อมูลนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เรารวบรวม เราอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากแหล่งต่างๆ ต่อไปนี้ เมื่อคุณลงทะเบียนบัญชีกับเรา เมื่อคุณสั่งซื้อสินค้าหรือบริการจากเรา เมื่อคุณติดต่อเราเพื่อขอความช่วยเหลือหรือข้อมูล เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ของเรา ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เรารวบรวมอาจรวมถึง ชื่อและนามสกุล ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับอุปกรณ์ของคุณและวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ เพื่อให้บริการแก่คุณตามคำขอของคุณ เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์และบริการของเรา เพื่อส่งข่าวสารและข้อมูลการตลาด เพื่อปกป้องเว็บไซต์และบริการของเรา การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบุคคลหรือองค์กรภายนอกดังต่อไปนี้ ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของเราที่ช่ว

ปลูกกล้วยในพื้นที่ว่างเปล่าสร้างผลผลิตและรายได้

  ปลูกกล้วยในพื้นที่ว่างเปล่าสร้างผลผลิตและรายได้ หลายคนมีพื้นที่ดินว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยวัชพืชนานาชนิดและไม่ได้จัดการอะไร ช่วงฤดูแล้งอย่างนี้หญ้าเริ่มเหี่ยวแห้ง มาจัดการพื้นที่รกร้างที่มีอยู่ แล้วมา ” ปลูกกล้วย ” กันดีกว่า กล้วยเป็นผลไม้พื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันมานาน เพราะทุกส่วนของกล้วยทั้งลำต้น ใบ ดอก ผล เหง้า และยังขยายพันธุ์ง่ายด้วยการแบ่งหน่อ หรือผ่าเหง้าไปปลูกต่อ จึงพบกล้วยขึ้นอยู่ทั่วไปในบ้านเรา และเป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกันมากนัก ทั้ง ๆ ที่กล้วยมีประโยชน์มากมาย ช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ผลกล้วยน้ำว้ามีราคาสูงขึ้น เนื่องจากมีการปลูกลดลง อีกทั้งสภาพแห้งแล้ง ทำให้หลายคนหันกลับมาปลูกกล้วยเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่การปลูกอย่างไรให้ได้ผลผลิตดีๆ มาเรียนรู้กัน สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ “สภาพพื้นที่และดินในบริเวณนั้น” แม้ว่ากล้วยจะเป็นพืชที่ทนทาน แต่การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตที่ดี ดินปลูกควรมีอินทรีย์วัตถุและความชุ่มชื้นเพียงพอ “แสงแดด” เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง กล้วยชอบแสงแดดจัด หากพื้นที่ดีแต่แสงแดดน้อยมักไม่ออกเครือ หรือคุณภาพผลผลิตไม่ดีพอ นอกจากนี้ “น้ำ”