ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กฎหมายที่ดิน และถ้าหากสงสัยถูกรุกที่ดิน ควรทำอย่างไร?

 

กฎหมายที่ดิน ที่ควรรู้

     ที่ดิน หมายถึง ที่ดินบนบกอันได้แก่พื้นที่ดินทั่วไป แล้วยังหมายถึงพื้นดินที่เป็นภูเขา ห้วย หนอง คลอง บึง ลำน้ำ ทะเลสาบ เกาะ และที่ชายทะเลอีกด้วย ที่ดินนับเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากในปัจจุบัน เป็นทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ที่ดินยังเป็นพื้นที่ที่สามารถทำประโยชน์แก่มนุษย์ได้ เช่น ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ใช้เพื่อเป็นหลักประกัน การครอบครองที่ดิน ต้องมีหลักฐานเอกสารต่างๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานราชการ เช่น โฉนดที่ดิน, นส.3, หรือหนังสือสิทธิ์อื่นๆ นอกจากนี้ที่ดินยังเป็นเครื่องแสดงออกถึงฐานะความเป็นอยู่ของแต่ละคนด้วย ผู้คนจึงพยายามใฝ่หาให้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินเป็นของตนเอง แม้จะต้องทำงานด้วยความยากลำบากสักเพียงใดก็ตาม เนื่องจากที่ดินมีค่าและมีประโยชน์มาก รัฐบาลจึงออกกฎหมายวางระเบียบแบบแผนเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดินของบุคคลคือ ประมวล กฎหมายที่ดิน ปีพ.ศ. ๒๔๙๗ มีข้อกฎหมายอย่างไรบ้างเราไปดูกันเลย

กฎหมายที่ดินเรื่องสิทธิในที่ดิน
    กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ให้ชาวบ้านสามารถมีสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินได้ โดยการให้ชาวบ้านประชาชนที่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อน สามารถไปยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้อง ก็จะออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้บุคคลที่ขอที่ดินนั้นต่อไปหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินนั้น ก็ได้มีการแบ่งแยกเป็น 2 ประเภท ก็คือ


1. หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ คือ เอกสารที่ทางราชการออกให้แก่ผู้มีสิทธิในที่ดิน เพื่อรับรองความเป็นเจ้าของในที่ดินแปลงนั้น โดยหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นคือ
1.1 โฉนดที่ดิน ซึ่งมีอยู่ 6 แบบ คือ น.ส.4 ก. , น.ส.4 ข. , น.ส.4 ค. , น.ส.4 , น.ส.4 ง. และ น.ส.4 จ.
1.2 โฉนดแผนที่
1.3 โฉนดตราจอง
1.4 ตราจองที่ตราว่า “ได้ทำประโยชน์แล้ว”

2. หนังสือแสดงสิทธิครอบครอง เป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้แก่ผู้มีสิทธิในที่ดิน เพื่อรับรองว่า ผู้นั้นเป็นผู้มีสิทธิครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงนั้นๆ เท่านั้น แต่ไม่ได้รับรองว่า บุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวแต่อย่างใด เอกสารที่กล่าวมา
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ได้แก่
2.1) น.ส.3 ก. เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกในท้องที่ที่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ
2.2) น.ส.3 ข. เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกในท้องที่ที่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ
2.3) น.ส.3 เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ที่ออกในท้องที่อื่นๆ
-ใบจอง เป็นหนังสือแสดงการยอมให้เข้าครอบครองที่ดินชั่วคราว ซึ่งก็คือ ใบ น.ส.2 หรือ น.ส.2 ก.
-ใบไต่สวน หรือ หนังสือแสดงการสอบสวนเพื่อออกโฉนดที่ดิน ซึ่งก็คือ ใบ น.ส.5
       สิทธิเรื่องที่ดินคือสิ่งที่เราควรเรียนรู้เอาไว้นะคะ เผื่อวันใดวันหนึ่งเรากลายเป็นมหาเศรษฐีสามารถซื้อที่ได้เป็นร้อยๆไร่ หรือที่ดินที่เรามีอยู่สามารถขายได้ ควรเรียนรู้เอาไว้จะได้รู้ทันใครๆเค้า สำหรับข้อแตกต่างระหว่างหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์กับหนังสือแสดงสิทธิครอบครองคือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์นั้น เป็นหนังสือที่แสดงว่าคนที่มีชื่อในโฉนดนั้นเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนั้นอย่างถูกต้อง ส่วนหนังสือแสดงสิทธิครอบครองเป็นเพียงหนังสือที่แสดงว่าผู้ที่มีชื่อในหนังสือนั้น เป็นผู้มีสิทธิครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินแปลงนั้นเท่านั้น ทั้งนี้การซื้อขายที่ดินควรตรวจสอบเอกสิทธิ์ให้เรียบร้อยเสียก่อน ไม่เช่นนั้นคุณอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

ถ้าหากสงสัยถูกรุกที่ดิน ควรทำอย่างไร?
    ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าที่ดินแปลงนี้เป็นมีโฉนดหรือไม่ ถ้าเป็นที่ดินมีโฉนด แล้วชื่อเป็นของคุณ ถ้าคนที่รุกที่เขาจะอ้างครอบครองปรปักษ์ก็ต้องเข้าครอบครองไปแล้ว 10 ปี แต่ถ้ายังไม่ถึง 10 ปี เขาจะไม่สามารถใช้สิทธิครอบครองปรปักษ์ได้ ดังนั้นคุณมีสิทธิฟ้องต่อศาล เพื่อขับไล่ให้ออกจากที่ดินของคุณได้เลย
      แต่ถ้าเป็นที่ดินไม่มีโฉนด แต่มีใบเอกสารสิทธิที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นเจ้าของที่ดิน กรณีนี้ถือว่าคุณอยู่ในฐานะผู้ครอบครองสิทธิ ถ้าเป็นกรณีนี้ เมื่อเขาเข้ามาบุกรุกเพียง 1 ปี ก็มีสิทธิที่จะครอบครองที่ดินของคุณได้แล้ว แต่ในเบื้องต้นคุณก็ต้องไปแจ้งความบุกรุกไว้ก่อน แต่ถ้าเขาต้องการที่จะต่อสู้เขาก็ต้องไปร้องต่อศาลเพื่ออ้างสิทธิตรงนี้ หลังจากนั้นก็อยู่ที่การพิจารณาของศาลแล้วว่า จะมีคำพิพากษาอย่างไร
       เบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน แนะนำว่า ให้คุณแจ้งความข้อหาบุกรุกที่ดินของคุณ เพื่อที่จะให้ตำรวจเข้ามาเคลียร์ให้ ถ้ายังไม่ออกจากที่ดินของคุณก็ต้องไปฟ้องร้องกัน และว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย และก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่ารื้อถอนให้ก่อน หากไม่มีคำสั่งศาล

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ที่มา bangkoksmilecondo 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ร้านกาแฟสกายวอล์คกระจกใส ไทยมีแล้วล้อมธรรมชาติ

วันที่ 27 พฤษภาคม 63 อีกหนึ่งแห่งสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ผ่อนคลายจากโควิด ร้านหลงกาแฟ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 9 ต.พุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี มีแนวความคิดสร้างสะพานกระจก หรือที่เรียกว่า สกายวอล์ค เป็นจุดเด่น ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนสะพานกระจกใสชมธรรมชาติติดภูเขา ยืน นั่ง ถ่ายรูป เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกได้ สะพานกระจกใสมาตรฐาน ปลอดภัย มีความยาว 20 เมตร สูง 5 เมตร นอกจากนี้มีร้านหลงกาแฟแล้ว ยังมี ร้านหลงครัว และร้านหลงบาร์ เพียบพร้อมด้วยเมนูอาหารที่หลากหลาย อีกด้วย ทางด้านนางสาวสุดารัตน์ รัตนวิจารณ์ (เจ้าของร้าน)เผยว่า เดิมทีสถานที่นี้เป็นที่ดินของแม่ ซึ่งตนเองมีแนวคิดที่จะมีร้านกาแฟเล็กๆสักร้านหนึ่งอยู่แล้วและเป็นจังหวะที่น้องสาวออกจากงานประจำ จึงได้มาสร้างสถานที่ตรงนี้เพื่อรองรับคนพระพุทธบาท แต่ก็คิดไม่ถึงว่าคนจะหลั่งไหลมาเยอะขนาดนี้ ซึ่งก่อนที่ร้านกาแฟจะเปิดก็มีร้านหลงบาร์ เปิดมาก่อนเป็นร้านอาหารกลางคืนมีดนตรี ต่อมาก็มีร้านหลงครัวซึ่งเปิดพร้อมกันกับร้านกาแฟ ส่วนในเรื่องของสะพานสกายวอล์คที่สร้างขึ้นมาก็เพื่อที่อยากจะให้คนที่มาดื่มกาแฟมีที่ถ่ายรูป เพราะวิวสถานที่เป็นวิวภูเขา ก็เลยอยากให้ถ่าย

นโยบายความเป็นส่วนตัว

  นโยบายความเป็นส่วนตัว บริษัท ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการเว็บไซต์ของเรา นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เรารวบรวมจากคุณเมื่อคุณใช้บริการของเรา และวิธีที่เราจะใช้ข้อมูลนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลที่เรารวบรวม เราอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากแหล่งต่างๆ ต่อไปนี้ เมื่อคุณลงทะเบียนบัญชีกับเรา เมื่อคุณสั่งซื้อสินค้าหรือบริการจากเรา เมื่อคุณติดต่อเราเพื่อขอความช่วยเหลือหรือข้อมูล เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ของเรา ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เรารวบรวมอาจรวมถึง ชื่อและนามสกุล ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับอุปกรณ์ของคุณและวิธีที่คุณใช้เว็บไซต์ของเรา การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ เพื่อให้บริการแก่คุณตามคำขอของคุณ เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์และบริการของเรา เพื่อส่งข่าวสารและข้อมูลการตลาด เพื่อปกป้องเว็บไซต์และบริการของเรา การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบุคคลหรือองค์กรภายนอกดังต่อไปนี้ ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตของเราที่ช่ว

ปลูกกล้วยในพื้นที่ว่างเปล่าสร้างผลผลิตและรายได้

  ปลูกกล้วยในพื้นที่ว่างเปล่าสร้างผลผลิตและรายได้ หลายคนมีพื้นที่ดินว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยวัชพืชนานาชนิดและไม่ได้จัดการอะไร ช่วงฤดูแล้งอย่างนี้หญ้าเริ่มเหี่ยวแห้ง มาจัดการพื้นที่รกร้างที่มีอยู่ แล้วมา ” ปลูกกล้วย ” กันดีกว่า กล้วยเป็นผลไม้พื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันมานาน เพราะทุกส่วนของกล้วยทั้งลำต้น ใบ ดอก ผล เหง้า และยังขยายพันธุ์ง่ายด้วยการแบ่งหน่อ หรือผ่าเหง้าไปปลูกต่อ จึงพบกล้วยขึ้นอยู่ทั่วไปในบ้านเรา และเป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกันมากนัก ทั้ง ๆ ที่กล้วยมีประโยชน์มากมาย ช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ผลกล้วยน้ำว้ามีราคาสูงขึ้น เนื่องจากมีการปลูกลดลง อีกทั้งสภาพแห้งแล้ง ทำให้หลายคนหันกลับมาปลูกกล้วยเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่การปลูกอย่างไรให้ได้ผลผลิตดีๆ มาเรียนรู้กัน สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ “สภาพพื้นที่และดินในบริเวณนั้น” แม้ว่ากล้วยจะเป็นพืชที่ทนทาน แต่การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตที่ดี ดินปลูกควรมีอินทรีย์วัตถุและความชุ่มชื้นเพียงพอ “แสงแดด” เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง กล้วยชอบแสงแดดจัด หากพื้นที่ดีแต่แสงแดดน้อยมักไม่ออกเครือ หรือคุณภาพผลผลิตไม่ดีพอ นอกจากนี้ “น้ำ”